วันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

ราหูจะอมจันทร์

วันจันทร์ที่ 13 วันเกิด

คนถูกจูบจนหมดแรงปรือดวงตาพร่าเลือนของตัวเองขึ้น ร่างสูงใหญ่ยกตัวเองขึ้นเหนือร่างใต้อาณัติเช็ดริมฝีปากที่เขรอะไปด้วยน้ำลายหวาน ก่อนจะดึงเสื้อยืดของตนออกจากกาย เผยให้เห็นกล้ามเนื้อมันเงาแม้อยู่ภายใต้ความมืด ทว่าแสงของดวงจันทร์ก็ยังสว่างไสวทอกระทบกายใหญ่
“จะทำอะไร” วิววันนี้น่ามอง กระตุ้นความกระสันจนยากจะอดกลั้น เสื้อบางถลกขึ้นไปบนลำคอเผยให้เห็นเรือนกายขาวผ่อง ที่ไม่ว่าแตะโดนตรงไหนก็มีรอยจ้ำขึ้นมา
“สอนให้มึงรู้ว่าคบกันเขาทำยังไง”
“กูรู้แล้ว ไม่ต้องเข้ามา”
“รู้จริงๆ เหรอ”
“เอ่อ”
ราหูจับแขนที่พยายามปิดหน้าของตัวเองอยู่กางออก ก้มลงจูบริมฝีปากช้ำอีกหน และอีกหน ก่อนจะวางมือเกรงจนกำแน่นนาบลงบนอก ที่มันกำลังสูบฉีดความร้อนแผดเผาทั่วร่างของเขา
“ไม่ชอบกูหรือไง”
“หา”
“ทุกอย่างนี้ทำเพื่อมึง”
“คืออะไร”
“ทั้งดูแลตัวเอง เล่นกีฬา เรียนให้เก่ง เก๊ก อยากจะเป็นคนที่ดูดีที่สุด ก็เพื่อมึง”
“อย่ามาพูดอะไรบ้าๆ นะ” คุณตำรวจครับ มีคนยอมรับว่าตัวเองเก๊กแล้วครับ
“กูก็คิดว่าตัวเองบ้ามากเหมือนกันที่หลงมึงขนาดนี้ ถ้าชอบคนอื่นก็ไม่จำเป็นต้องพยายามแท้ๆ แค่ขยิบตาให้เขาก็ตามมาต้อยๆ แล้ว แต่กับมึงกูต้องสู้กับคนทั้งโรงเรียนโคตรจะบ้าเลย”
ตีความไม่ถูกเลยว่ากำลังด่าตัวเองอยู่หรือกำลังดูถูกคนอื่นอยู่กันแน่
“นี่ไอ้เตี้ย ทำขนาดนี้แล้วไม่อยากจับดูหน่อยหรอ”
“ไม่โว้ยไอ้โรคจิต” คนพอมีเรี่ยวแรงกลับมาดิ้นพล่าน แต่ใยจะสู้มือใหญ่ๆ ที่จับอยู่ และใบหน้าที่พยายามซุกไซ้มาตามซอกคอ
“ร่างกายนี้เพื่อมึงเลยนะ”
ถ้าพ่อแม่มึงได้ยินคงเสียใจแน่ อุตส่าห์ให้กำเนิดลูกมาแท้ๆ แต่เจ้าตัวดันมาบอกว่ายกให้คนอื่น
“เพราะงั้นร่างกายมึงก็ต้องเป็นของกูเหมือนกัน”
“ประเด็นมึงอยู่ตรงนี้สินะ ไอ้มืด ถอยไป ยะ อย่าจับ...”
มือใหญ่ที่ลูบไล่ไปตามหน้าท้อง จับที่แกนกลางความรู้สึกทำร่างกายเล็กกระจิดเพียงอยู่ใต้คนที่มีกำลังมหึมากว่าบิดเกลียว พยายามดึงข้อมือหนาออกแต่ก็ทำได้เพียงจับ หอบแฮ่กๆ ลำตัวสั่นสะท้านใต้กายแข็งเป็นหิน แต่ก็คงความอบอุ่น การร้องไห้อาจไม่ได้ช่วยให้เขาหนีจากวิกฤติคราวนี้เหมือนครั้งก่อน เพราะคนที่เอาแต่ซุกหน้าจูบหัวไหล่ของเขาไม่ยอมยกสายตาขึ้นมามอง เมื่อเจ้าหนูจันทร์น้อยแข็งขืนขึ้น มือที่จับอยู่บนเหนือผ้าก็สอดผ่านหัวกางเกงลงไป ความอุ่นสัมผัสกับความร้อน ลำตัวเกร็งโผเข้ากอดไหล่กำยำ ยิ่งปลายนิ้วที่แตะอยู่บนจันทร์น้อยหมุนวน เท้าของเขาก็ยิ่งครูดไปตามผ้าปูที่นอน ฝ่ามือภายใต้นั้นขยับอย่างมีชั้นเชิง บีบเค้นนวดคลึงจนแท่งเนื้อที่เต้นอยู่ภายในมือปวดตุบๆ จันทร์เจ้าฝั่งเขี้ยวลงไปบนหัวไหล่แกร่ง ระบายความเจ็บปวดที่พรั่งพรูออกมา เหมือนไฟฟ้าช็อตไปทั่วร่าง รู้สึกอยากตายขึ้นมาเดี๋ยวนั้น
ลมหายใจถี่หอบค่อยๆ จางลง จังหวะเดียวกับมือที่เขรอะของเหลวภายใต้เนื้อผ้าเลื่อนออกมา
“ไวจังน้า” ราหูเลียแผล็บของเหลวอุ่นบนมือ ขอไม่พูดว่ามันอร่อย แต่ก็เป็นรสชาติที่กระตุ้นสัญชาตญาณดิบขึ้นมาง่ายๆ ถ้าเกิดว่า...
“เฮ้ย!
ฟี้...
เสียงลมหายใจอ่อนๆ กับคนที่ขดตัวเข้ากอดตัวเอง ราหูมองคนที่หลับไปอึ้งๆ ความหื่นกระหายมลายไปกับใบหน้าใสซื่อที่ไม่ได้ไร้เรียงสาสักนิด
“อย่ามาหลับหนีกันนะโว้ย”
คนที่ร่างกายเบาโหย่งไปแล้วตบมือหาของที่ใช้กอดเป็นวิสัย ก่อนจะคว้าได้กายอุ่นขยับใบหน้าเข้าซุกมุดหาตรงที่ถูกใจเหมือนเด็กๆ และผล็อยหลับสนิทไป
โมโหจนอยากจะลักหลับ แต่พอคิดถึงเรื่องที่ถกเถียงกันจนจะแตกหักก็ไม่กล้าหื้ออือด้วย คงพยายามน่าดูถึงขนาดตามเขามาถึงนี่ ราหูผิดเองที่ไม่ได้ไลน์ไปหาทุกชั่วโมงอย่างที่สัญญา พอมาถึงก็ทะเลาะกับพ่อจนเขาหัวเสียขับรถออกไปและไม่ได้จับมือถืออีก มันยากที่จะทำเป็นสงบทั้งที่ภายในใจว้าวุ่น จากวันนั้นจนถึงวันนี้เขาก็ยังคงเป็นเด็ก ที่ไม่ยอมโตสักที
เอาเป็นว่าไปจัดการไอ้ที่พยายามดันซิปกางเกงออกมานี่ก่อน แต่พลันจะลุกไปใช้บริการห้องน้ำเหมือนทุกที คนที่ไม่เคยอยากจะแตะตัวเขากลับกอดกลมดิกไม่ยอมให้ขยับซะนี่
“เวร”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น