วันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

ราหูจะอมจันทร์ คัทซีน ฉากที่ 2

วันจันทร์ที่ 15 กว่าความรู้สึกจะมาบรรจบกัน

“แกล้งตายกูก็ไม่ปล่อยมึงไปแล้วล่ะนะ”

“รู้แล้วล่ะน่า” จันทร์เจ้าพูดเสียงอู้อี้ภายใต้อกอุ่น หัวใจเต้นตู้มต้ามเมื่อถูกวางอย่างบรรจงบนฟูก กระชับวงแขนกอดไหล่กว้าง หลับตาปี๋รับสัมผัสเล้าโลม แต่พอถูกเลียใบหูร่างกายก็ลู่ตามแรงชักจูงไปง่ายๆ
ราหูยกตัวขึ้นมองคนหอบแฮ่กๆ ใต้อาณัติ หยิบซองสี่เหลี่ยมสีดำบนเตียงออกมาเปิดด้วยปาก ฝืนบังคับยัดขนาดที่ไม่ได้เหมาะกับเขาคลุมแท่งร้อน และมันก็ฉีกขาดออก
“พรืด...” เสียงหัวเราะดังขึ้นจากคนแอบมอง ราหูถึงกับดึงชิ้นส่วนบางๆ นั้นทิ้ง โถมตัวลงทับคนที่มีเรี่ยวแรงกลับมา ทั้งที่เมื่อกี้ยังทำเหมือนขาดอากาศหายใจอยู่
“หืม มีอะไรน่าขำงั้นหรอ”
“เปล่า ไม่ได้ขำสักหน่อย คิก คิก- ไม่ใช่นะ เมื่อกี้แค่ทดสอบเสียง”
“เห.......” ราหูยกยิ้มกว้าง เลื่อนมือผ่านซอกขาเรียวและยกขึ้น
“จะ จะทำอะไร”
“ถุงยางเล็กไปก็ไม่ต้องใช้แล้วกัน”
“เดี๋ยวๆ กูขอเวลานอก”
จันทร์เจ้ากัดฟันแน่น ถึงจะเคยชินจากปลายนิ้วที่แหวกทางมาก่อนหน้านี้ แต่ขนาดของสิ่งใหม่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ทั้งที่แค่ดุนดันอย่างหยอกเย้าที่ปากทางเข้าเล่น ก็อึดอัดจนน่าใจหาย ตอนหัวเราะเพราะเห็นผู้เชี่ยวชาญดูเงอะงะดันไม่ได้คิดว่าไอ้ที่ถุงยางใส่ไม่ได้ จะต้องมาใส่ในตัวเขา
“อย่าเกร็ง”
“อื้อ” ตัวของเขาสั่นระริก สัมผัสได้ถึงสิ่งแปลกปลอมที่พยายามแหวกเข้ามาในร่างกาย
“จะ เจ็บ” มือขาวสาวหาที่ยึด ร่างกายบิดเกรี้ยวด้วยความปวดร้าว มือใหญ่ที่พยายามจับแท่งร้อนมุดผ่านรูรักชะงัก เปลี่ยนไปจับมือที่กำอยู่บนผ้าปูมาวางไว้บนไหล่ ก้มลงจูบริมฝีปากที่เม้มสนิท แต่คนที่กัดฟันตัวเองแน่นก็ยังไม่ผ่อนคลายลง
“หยุดไหม”
“ฮึก” เขาคิดไว้แล้วว่าตัวเองจะไม่ร้องไห้ แต่มันก็เจ็บเกินกว่าจะยิ้มรับได้ เมื่อเห็นท่าทางของเขาคนถามก็ดูจะถอยออก จันทร์เจ้ารีบคว้าลำคอใหญ่ไว้ กายใหญ่สั่นสะท้านไม่ต่างกับเขา แค่นึกว่ามันต้องเป็นฝ่ายอดทนมาตลอด ความกลัวที่ต้องให้มันจบลงก็ตามมา
“ฮือออ กูทนไหว” แค่ต้องกัดฟันไว้แน่นๆ
ราหูรู้สึกตกใจ แต่ก็ยิ้มอ่อนออกมา กอดแผ่นหลังเรียบเนียนที่ยกขึ้นเหนือฟูกนอน รักจนเหมือนจะบ้าตาย
“รักมึงนะ”
“อะไรล่ะนั่น”
“ดันทำตัวไม่ค่อยเท่เท่าไหร่ ต้องการมึงจนไม่มีความใจเย็น ทั้งที่อยากถนอมอย่างดีแท้ๆ”
“ไม่ใช่สาวน้อยสักหน่อย ไม่ต้องฝืนในสิ่งที่ตัวเองไม่ถนัดหรอก”
“แน่ใจหรอพูดออกมาแบบนั้น ถ้าทำต่อจะไม่หยุดอยู่ที่เบาๆ นะ”
“แล้วกูบอกหยุดตอนนี้ทันหรือไง”
“มึงพลาดโอกาสครั้งสุดท้ายในชีวิตไปตั้งแต่ลุกขึ้นมากอดกูแล้ว”
รอยยิ้มกว้างฉายขึ้นบนใบหน้าคมคาย ก่อนจะโน้มเข้าจูบคนเขินอาย จันทร์เจ้าหลับตาลง รู้สึกผ่อนคลายลงกว่าเมื่อกี้ ถึงจะรับรู้ถึงแรงกระตุกตุบๆ ที่เรียกร้องผ่านประตูเข้ามาด้านใน แต่เขาก็เพียงแค่กอดร่างกายกำยำเอาไว้ ผ่อนลมหายใจออกช้า และเปิดตามองใบหน้ากลั้นอารมณ์
ราหูเปิดตาขึ้น มองคนที่วางมือแตะบนหน้าของเขาก่อนที่เจ้าตัวจะยิ้ม
“หน้ามึงโคตรสุดยอดเลย”
“หนวกหูน่า” ราหูก้มลงกอดกายภายใต้ร่างอีกครั้ง ดันความอดกลั้นเข้าไปจนสุด รับรู้ได้ว่ามีเสียงฉีกขาดผ่านร่างกายเราทั้งคู่ จนเขาไม่กล้าขยับไปอึดใจ
“ลองมาเป็นคนที่รักมากอย่างกูสิ”
“คิก ไม่ล่ะ กูชอบที่จะถูกรักมากกว่า”
“งั้นก็รับความรักจากกูไป”
“อ๊า~~ อย่าเพิ่งขยับ”
เจลที่คลั่งอยู่ด้านในไม่อาจบรรเทาแรงเสียดสีได้ ริมฝีปากอุ่นครอบลงจูบหน้าอกที่เด้งขึ้นตามแรงกระแทก ปลายลิ้นนุ่มดุนตุ่มสีหวาน หมุนวนและขบลงเบาๆ สะโพกหนาเลื่อนเข้าหาช่วงล่างที่ไถไปตามแรงกระแทก ขยับอย่างเป็นงาน จับเอวคอดไว้ด้วยสองมือและเร่งความเร็ว
เสียงที่เคยกลัดกลั้นดังระงมไปตามเสียงกระทบของเนื้อปะทะเนื้อ ร่างกายผอมภายใต้กายล้ำสันโก่งงอนบิดเร้า มือใหญ่ช้อนแผ่นหลังนอนไม่ติดฟูกขึ้น เปลี่ยนอิริยาบถให้กายสั่นระริกขึ้นมานั่งบนตัก ใบหน้าเขินอายซุกอยู่ภายใต้ซอกคอแกร่งตลอด   
สมองของจันทร์เจ้าขาวโพลนคิดอะไรไม่ออกนอกจากคล้อยตามแรงกระตุ้น ร้องจนจะหมดเสียงแต่ก็ไม่มีท่าว่าความเจ็บปวดที่เปลี่ยนเป็นความสุขสมนี้จะหยุดลง
“อื้อ!” ไฟฟ้าช็อตไปทั่วร่างหลังของเหลวอุ่นพุ่งเข้ามาในตัวเขา กว่าเจ้าตัวจะสำเร็จความใคร่ไปครั้งหนึ่งเขาต้องถูกช่วยถึงสองครั้ง
“อยากตาย” จันทร์เจ้าคลายปลายเท้าของตัวเองที่เกร็งจนจะขยุ้มผ้าปูที่นอนได้แทนมือออกวางนิ่งไร้การขยับ คนฟุบพักช่วงยกใบหน้าที่ยังไม่เต็มอิ่มของตัวเองขึ้นหายใจกระสัน แล้วแท่งอุ่นที่ยังไม่ถอดออกจากจุดเชื่อมต่อก็ขยายใหญ่ขึ้นอีกครั้ง จันทร์เจ้าที่เพิ่งคิดว่าตัวเองรอดตายไปแล้วสะดุ้ง ยกมือขึ้นดันไหล่แกร่งเต็มกำมือออก
“พอเลยนะมึง”
“เอ๋ กูยังไม่ได้ออกแรงเลย”
“ไอ้คนโกหก”
“เมื่อกี้มึงยังบอกว่ามีความสุขจนอยากตายเลย”
“ไม่ใช่แล้วโว้ย” คนที่ตีความหมายได้เข้าข้างตัวเองสุดๆ เหมาะที่จะใช้ชีวิตอยู่คนเดียว
“อะ ไอ้มืด” ตัวของคนพยายามดิ้นหนีถูกพลิก ใบหน้าที่หันซุกลงบนฟูกถูกมือใหญ่ประคองกลับมา ใบหน้าใหญ่ก้มลงมาตามเอียงเข้าจูบมาจากทางด้านหลัง แม้เขาจะพยายามประท้วงภายในลำคอแค่ไหน พอท่อนล่างขยับอย่างเป็นงานก็คงขอให้หยุดไม่ได้
“อ๊า”
“บอกว่ารักกูสิ แล้วกูจะหยุด”
“โกหก” ข้อมือผอมถูกจับพลิก คนจากด้านบนก้มลงจูบเปลือกตาหยาดเยิ้ม คนขาวแดงเรื่อไปทั้งตัว แต่ก็อดที่จะฝากรอยจ้ำเพิ่มลงไปไม่ได้
“พูดไปมึงก็ไม่หยุดอยู่ดี”
“รู้ได้ไง ลองก่อนสิ”
จันทร์เจ้าเม้มริมฝีปากตัวเองลง แต่ก็ถูกแย่งไปครอบครองเหมือนไม่ปล่อยเวลาให้เขาคิด
“กู...เกลียดมึง”
ถ้อยคำสั้นๆ ที่เป็นตัวจุดประกายความรู้สึกของทั้งคู่มาจนถึงวันนี้ น่าแปลกที่ราหูไม่ได้รู้สึกเกลียด คำว่า เกลียด ที่ออกมาจากปากอีกฝ่าย มิหนำซ้ำยังรู้สึกต้องการจนดิ้นรนคว้ามันมา บางทีนะ บางที ไอ้เตี้ยของเขาอาจจะไม่รู้จักวิธีบอกรักใครก็ได้ เพราะงั้นจนกว่าจะเปลี่ยนคำว่าเกลียดจากปากมันให้เป็นรัก เขาจะคอยบอกจนกว่าจะเข้าใจเอง
“รักนะ”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น